จากความตั้งใจที่เราอยากให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกสำหรับเมนูขนมหวานจากผลไม้มากขึ้น นอกจากเมนูไอศกรีมมะพร้าวอ่อนและเมนูผลไม้ลอยแก้วแล้ว
เรายังได้พัฒนาเมนูขนมหวานด้วยการนำผลไม้สดมาแปรรูปเป็นแยม เพื่อคงรสชาติความอร่อยของผลไม้ไว้ แล้วเพิ่มความสดชื่นด้วยการเสิร์ฟแยมเนื้อผลไม้
คู่กับเกล็ดน้ำแข็งและนมสดรสหวานมัน เพิ่มสีสีนและความหลากหลายของรสชาติสำหรับเมนูล้างปากตบท้ายหลังมื้ออาหารอีสานที่มีรสจัดจ้าน
ความอร่อยจากสวน ถึงโต๊ะอาหาร
ผลไม้ที่นำมาใช้ทำโฮมเมดแยม เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลให้เมนูหวานเย็นถ้วยนี้มีความพิเศษและแตกต่าง โดยรสชาติทั้ง 4 นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- มังคุด ราชินี แห่งผลไม้ เนื้อขาวอวบ ให้รสหวานอมเปรี้ยว
- สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียหรือสับปะรดใต้เนื้อหวานและให้รสสัมผัสฉ่ำน้ำ
- ลิ้นจี่คัดเฉพาะผลอวบ รสหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ถั่วแดง รสหวานมัน นำเนื้อมาบดละเอียดให้เนียนผสมกับเนื้อที่บดหยาบเพิ่มความสนุก เคี้ยวเพลิน
- ถั่วแดง รสหวานมัน นำเนื้อมาบดละเอียดให้เนียนผสมกับเนื้อที่บดหยาบเพิ่มความสนุก เคี้ยวเพลิน
โฮมเมดแยมผลไม้
การทำแยมของเราเริ่มด้วยการนำผลไม้สดมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น เคี่ยวพร้อมน้ำตาลและเกลือด้วยไฟอ่อน
หลังจากกวนจนผลไม้เริ่มเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟและเทน้ำมะนาวเล็กน้อยเพื่อปรับความเป็นกรด(ทำให้แยมเซตตัว)
หลังจากนั้นนำบรรจุลงในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท พักให้เย็นตัวลงที่อุณหภูมิห้องก่อนนำไปแช่ในตู้เย็น
เคล็ดไม่ลับ..เก็บแยมอย่างไรให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้น
เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมบางครั้งแยมถึงเสียก่อนที่จะถึงวันหมดอายุ ทั้งที่เก็บแช่ไว้ในตู้เย็น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีที่จะช่วยยืดอายุแยมของคุณให้เก็บได้ยาวนานยิ่งขึ้น
แยมมีมีส่วนผสมของน้ำตาลซึ่งเป็นอาหารชั้นดีของจุรินทรีย์และแบคทีเรีย ทำให้มันเจริญเติบโตได้ง่ายเป็นพิเศษ
สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้ภาชนะบรรจุ ที่มีฝาปิดสนิท และก่อนบรรจุควรนำมาทำความสะอาดด้วยการลวกน้ำร้อน เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียก่อนบรรจุแยมลงในภาชนะที่เตรียมไว้ และเก็บแยมในที่แห้ง ห่างจากแสงแดด สำหรับช้อนที่ใช้ตักต้องเป็นช้อนสะอาดเท่านั้น และหลังจากใช้งานเสร็จ แนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็น เพราะเมื่อแยมโดนอากาศจะทำให้อายุการเก็บสั้นลง